EP.26 Parabolic Sar ทบพอร์ท (เข้าใจง่าย)

" EP นี้ เป็น ซีรี่ย์หนึ่งที่ใช้ PSAR ซึ่งเป็นอินดิเคเตอร์ที่ค่อนข้าง สารพัดประโยชน์​มาแชร์​ เทคนิคการทำกำไร โดยผมจะแนะการเทรดที่เป็นระบบ มีความชัดเจน ไม่ต้องมั่ว ไม่ต้องเดา ไม่ต้องน่าจะ ... ไม่ต้องรู้งี้ ...  "

✅ การใช้ Parabolic sar ที่ล้มเหลว
✅ Parabolic sar ทำอะไรได้มากมาย ทำอย่างไร ??? 

✅ นำ Swing high - Low มาผสมผสานอย่างไร ??? 


ผมจะเล่าให้ฟัง ... 

 


Parabolic sar คืออะไร ???

เป็นเครื่องมือที่ถูกพัฒนาโดย คุณ Welles Wilder ตีพิมพ์ ในบทความ "New Concepts in Technical Trading Systems" หลักการพิจารณาการเคลื่อนที่ของราคา ตามแนวโน้มต่างๆ พิจารณาการเพิ่มหรือลดของราคาเทียบกับจุดอ้างอิงก่อนหน้า สูตรคำนวณสามารถ Search หาได้จาก website ต่างๆ ได้เลยครับ


 
หลักการนำไปใช้ คือ หากตัว "จุดไข่ปลา" ของ Parabolic sar อยู่ด้านล่างของราคา เราจะมอง bias กราฟ เป็น แนวโน้ม ขาขึ้น ตรงกันข้าม หาก "จุดไข่ปลา" ของ Parabolic sar อยู่ด้านบนของราคา เราจะมอง bias กราฟ เป็น แนวโน้ม ขาลง ตามลำดับ 


การใช้ Parabolic sar ที่ล้มเหลว

แต่การนำ PSAR มาใช้อย่างโดดเดี่ยว โดยดูเพียงสัญญาณของอินดิเคเตอร์ เปลี่ยนทิศไปมา แล้วกดซื้อ - ขาย คงไม่สามารถทำกำไรในตลาดได้อย่างแน่นอน  

 

 

จากภาพด้านบนจะเห็นว่า  หากเราทำการ ซื้อ-ขาย ตามสัญญาณอินดิเคเตอร์ จะพบว่าเราต้องโดน Stoploss หลายครั้งมากๆ ในช่วงตลาดไร้ทิศทาง 

ต่อไปผมจะแนะนำวิธีการเทรดอย่างไร ??? ให้สามารถทำกำไรโดยใช้ PSAR ได้อย่างยั่งยืน ชัดเจน และเป็นระบบครับ 

 

STEP#1  ใช้ PSAR นำทางบอกเทรนด์ 



STEP#2  ใช้ Swing high / Swing low เพื่อหาแท่ง Set up 

 

จุดสำคัญของระบบนี้คือ เราจะใช้อินดิเคเตอร์พิเศษคือ Swing high / Low ในการหาจุดเข้าที่ได้เปรียบ ซึ่งใครที่พอเข้าใจ หรือ เคยเรียนในคอร์สต่างๆ ของผม ก็จะรู้ว่า จุด Swing high / Low ก็คือ แนวรับ - แนวต้าน ที่สำคัญของตลาดนั่นเอง 

เพียงแต่ ตอนนี้เราจะนำมาใช้ ควบคู่กับ PSAR เพื่อหาแท่ง Setup 


การหา Setup นั้น เรามีวิธีการดู คือ ลำดับแรก เราจะพิจารณา PSAR ก่อนว่าอยู่ในทิศทาง ขาขึ้น หรือ ขาลง จากภาพ มองด้านซ้ายจะเห็นว่า จุด PSAR อยู่ด้านบน จึงทราบได้ว่า เทรนด์มีแนวโน้มลง 

หลังจากนั้น ให้รอจนเกิด Swing low แรกก่อน เพราะนั่นคือ "แนวรับ" สำคัญ เมื่อเกิดขึ้นแล้ว นั่นคือเราพบแท่ง Setup เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ 

 

 

STEP#3  เข้าออเดอร์ พร้อม Stoploss 

 

ทำการเข้าออเดอร์ Sell Stop ที่ Low ของแท่ง Setup ส่วน Stoploss เราจะเช็คระหว่างแท่ง Setup กับ ก่อน Setup 1 แท่ง ว่าแท่งใดมีราคา high ที่สูงกว่า (ในกรณีเทรดขาลง) ก็จะใช้ราคา High ของแท่งดังกล่าว เป็น Stoploss และใช้ Risk ไม่เกิน 1-2% ต่อพอร์ทครับ 


STEP#4  หาค่า Risk : Reward ที่เหมาะสม 


Exit โดยใช้ระยะ Risk : Reward ที่เหมาะสม ซึ่งแต่ละคู่เงิน แต่ละ Timeframe มีค่าที่เหมาะสมแตกต่างกัน เป็นหน้าที่ ที่เราจะทำการทดลอง ทดสอบ ก่อนนำมาใช้จริง ถ้าคุณเป็นคนวิจัยเอง คุณจะมีความมั่นใจในการเทรดหน้างานจริง เวลาเกิด Drawdown ก็จะไม่หวั่นไหว 

จากตัวอย่าง Risk : Reward อยู่ที่ 1:3 ครับ 

แตกต่างจากคนที่เรียนกับผมแล้ว ไม่นำไปทดลอง ทดสอบ กลับมาถามผมว่า เทคนิคนี้ใช้ค่า Take Profit เท่าไหร่ดี หรือ เทคนิคนี้เหมาะกับ Timeframe ไหน หรือ เทคนิคนี้เหมาะกับคู่เงินไหนมากที่สุด สารพันปัญหา ของคนส่วนมากที่ต้องการสูตรสำเร็จที่รวดเร็ว ไม่ต้องรอ ไม่ต้องเหนื่อย ... อย่าให้กรุทำอะไรเยอะ !!! 

ถ้าคุณ Action โดยใช้แนวคิดแบบนั้น หากคุณสำเร็จผมให้คุณนำอวัยวะที่ใช้เดินมาลูบหน้าผมเลย 555 

 

ตัวอย่างการเทรด "ขาขึ้น" และ ทริคในการเทรดเพิ่มเติม กดดูที่ link ด้านบน ได้เลยครับ 

 

 

Visitors: 27,897