EP.06  เทรด Pinbar ตรงไหน ทำกำไรดีที่สุด ... ???

... เทรด Pinbar ตรงไหน ทำกำไรดีที่สุด ... ??? 

... ที่เทรด Pin bar แล้วเจ๊ง เค้าทำกันยังไง ???

... "20 Bars room left"  คืออะไร ??? นำไปใช้เพิ่ม winrate ได้อย่างไร ??? 

... หากคุณรู้จัก Pin bar แต่ยังเทรด "ขาดทุน" อยู่ ยิ่งต้องศึกษาให้บทความนี้ให้จบ ... 

 

 

ผมจะพาคุณไปดูแนวทางการเทรด Pin bar ในแบบของผม ซึ่งจะมีความแตกต่างจาก Basic Pin bar ที่อื่นสอนๆกัน โดยผมจะใช้  กฏ​ "20 Bars room left" เข้ามาช่วยการเพิ่ม Winrate 

ดูให้จบนะครับ ...​ หากท่านเป็นคนชอบ Pinbar 

 

Pin bar คืออะไร ??? 

มันคือ Price action ในการหาจุด "กลับตัว" แบบหนึ่ง ซึ่งมีประสิทธิภาพมาก (หากใช้เป็น) ผมจะไม่สอนให้คุณท่องจำ pattern นะครับ บอกไว้ก่อน วิธีการดู Pin bar นั้น ไม่ยากครับ  

มันจะมีจุดสังเกต 2 ข้อ ดังนี้ 

1.  หางยาว ... ตัวสั้น 
2. ตัวสั้น นั้น ... ปิดใกล้ High หรือ Low ของแท่งราคา (ปิดไม่เกิน 30% ของ ความยาวทั้งหมดของแท่งราคา)

 

 

เทรด Pin bar แล้วเจ๊ง เค้าทำกันยังไง ???

การเทรด pinbar ที่ดูเหมือนง่ายๆ จากการที่ผมดูแล นักเรียนเทรดเดอร์มาหลายร้อยท่าน พบว่า ปัญหาที่ทำให้ "ขาดทุน" นอกจาก การไม่กำหนด Risk reward และ การวางเงินที่ไม่ดีแล้ว 

สิ่งสำคัญคือ การเทรดโดย "ไม่ใช้" "กฏ "20 Bars room left" นั่นคือ เจอสัญญาณ pinbar ที่ไหนก็เทรดสวนทันที ไม่ได้ดูเลยว่าจุดที่เปิดมีความได้เปรียบหรือไม่ 

Pin bar ที่มีประสิทธิภาพ คือ pin bar ที่เกิดตรง "ยอดเขา" หรือที่ "ก้นเหว" ไม่ใช่ตรงไหนก็ได้ หรือ ช่วงตลาด Sideway  

"20 Bars room left"  คืออะไร ??? 

คือ การเลือกเทรด Pin bar ในตำแหน่งที่ได้เปรียบ นั่นคือ ตรง "ยอดเขา" หรือที่ "ก้นเหว" โดยจุดสังเกตคือ ... 

มื่อเจอ pin bar signal อย่าเพิ่งรีบเข้าเทรด ให้ มองไปทาง ซ้าย แล้ว นับไป 20 แท่ง จะต้องเป็น "พื้นที่ว่าง" เท่านั้น หากไม่เป็นไปตามนี้ มีโอกาสที่คุณกำลังเทรด Pin bar ในตลาด Sideway แน่นอนครับ 

 

Pin bar ที่มีโอกาส "แพ้" เพราะ ขาด "20 Bars room left" เป็นดังภาพด้านล่างครับ 

 

 

จะเห็นได้ว่า การที่ "ไม่มี 20 bars ทางด้านซ้ายมือ ของ Pin bar" มีโอกาสที่เราจะ "แพ้" ในการเทรด Pin bar นั้นสูงมาก เนื่องจากจุดเข้าของเรามีโอกาสจะเทรดในช่วงตลาด Sideway ครับ 

ดังนั้น ขอไล่เรียง Step การเทรด pinbar โดยใช้กฏ "20 Bars room left" เข้ามาร่วมพิจารณา ตามนี้ครับ ... 

 

STEP#1 หา Pin bar Signal ให้เจอ 

 

 

จากภาพคู่เงิน USDJPY ใน TF H4 พบว่า กราฟมีแรงขึ้นในช่วงแรก และ เกิด Pin bar signal โดยเช็คอัตราส่วน คือ Body 30% ของแท่ง เป็นการยืนยันว่า เป็น Pin bar ที่ดี ครับ แต่ ... 

เห็นอย่างนี้อย่าเพิ่งรีบเข้าออเดอร์นะครับ ให้รอ Step#2 

 

STEP#2 อย่าใจร้อน ... ให้เช็ค กฏ "20 Bars room left"

 

 จากภาพ จะเห็นว่า pinbar signal ในตัวอย่าง เมื่อลองมองไป "ทางซ้าย" 20 แท่ง จะพบว่าเป็น "พื้นที่ว่าง" ซึ่งเข้า กฏ "20 Bars room left" แบบนี้ไปต่อ STEP#3 ได้ครับ เพราะ มีโอกาสจะได้ Sell ที่ตำแหน่งที่ได้เปรียบครับ 

แล้วการเข้าแบบไม่ใช้กฏ หละ ... เป็นอย่างไร ??? อธิบายตามภาพด้านล่างครับ 


จะเห็นว่า ตัว  Pin bar Signal เมื่อมองไปทางซ้ายแล้ว "ขาดพื้นที่ว่าง 20 แท่ง" มีช่องว่างอยู่ประมาณ 3-4 แท่ง เท่านั้นเอง ดังนั้น ผมจะไม่เข้าเทรดครับ เพราะ ผมจะมองว่าจุดเข้านี้อาจจะอยู่ในตลาด Sideway ซึ่งเป็นตลาดที่เราไม่ได้เปรียบเมื่อทำการเข้าเทรดครับ เราจะ Skip เทรดนี้ไปก่อน ... รอจังหวะเทรดถัดไป หรือ อาจจะมองหาคู่เงินถัดไป ไม่งั้นจาก "ปัง" อาจจะ "พัง" ได้ 


STEP#3 "ตั้ง Pending order รอ Match พร้อม Stoploss"

  

ทำการวาง Order โดยใช้การ Pending order รอ ราคาลงมา match พร้อมคำนวณความเสี่ยงโดยแนะนำใช้ Risk 1%-2% ไม่ให้เกินนี้ ในกรณีที่ราคาไม่ลงมา Match แล้วไปชน Stoploss ให้ทำการ Delete order ที่ตั้งไว้ครับ ถือว่า เป็นการ "กรอง" เทรดเสียไปในตัวด้วย ^^ 

 

STEP#4 "ทำการตั้งจุด Take profit"


ย้ำอีกครั้งว่า ... Risk : Reward เป็นเรื่องที่คุณต้องทำการบ้านมาก่อน ... คิดมาก่อน ไม่ใช่มา "โลภ" เอาหน้างาน 
ผมแนะนำหากเป็น ...​ 
Timeframe H4 .  1:3 - 1:6
Timeframe Day .  1:2 - 1:3
*** ทั้งนี้ต้องขึ้นกับสินค้าที่คุณใช้เทรดด้วยครับ 

 

 ในการณี การเทรด "ขาขึ้น" นั้น ให้ใช้เงื่อนไขทุกอย่าง ตรงกันข้าม กับการเทรด "ขาลง" ครับผม จากภาพเป็น Timeframe Day การเทรดจะประหยัดพลังงานมากกว่า เพราะ ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ ส่วนระยะ Risk : Reward ได้ 1 : 3  


Visitors: 27,898